*ยาวหน่อยนะคะ*
วันนี้ตอนประมาณห้าโมงเย็น เราไปทานบุพเฟ่ต์ที่ร้านชาบูคิง สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะที่เพิ่งเปิดเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ
มีเหตุการณ์ไม่ประทับใจหลายอย่างที่ไม่คิดว่าน่าจะเกิดขึ้น เพราะเราเคยไปกินที่สาขาสุขุมวิทมาแล้วครั้งนึง
ทุกอย่างโอเคมาก ในแง่ของรสชาติอาหารและการบริการ
(รสชาติอาจไม่เรียกได้ว่าดีที่สุด แต่อยู่ในขอบข่ายที่เรียกได้ว่าโอเคและสามารถยอมไปกินซ้ำได้)
แต่พอมาวันนี้ ทุกอย่างกลับตาลปัตรค่ะ
อาหารมาเสิร์ฟช้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกก มากถึงมากที่สุด
โต๊ะเราว่างไม่มีอะไรให้ชาบู ชาบูอยู่ร่วมสิบนาทีได้ นานถึงขนาดผักในหม้อเปื่อยหมดแล้วแต่ของสดก็ยังไม่มาเสิร์ฟ
นั้นคือประเด็นที่ 1
ช่วงที่ระหว่างรอของสดมาเสิร์ฟซึ่งเราเรียกย้ำไปแล้วสามครั้ง
เราจึงหยิบมือถือขึ้นมาเล่นและนึกขึ้นได้ว่าเราตาม follow instagram คู่รักนักร้อง-ดาราซึ่งเป็นเจ้าของกิจการแบรนด์นี้อยู่
ด้วยหวังใจว่า instagram จะสามารถเป็นสื่อเชื่อมโยงเรากับเจ้าของร้านได้
จึงได้ไปคอมเม้นท์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เจอวันนี้ในรูปเกี่ยวกับร้านอาหารนี้ที่เจ้าของร้านที่เป็นดาราผู้หญิงเคยลงไว้
เราจำประโยคเป๊ะๆไม่ได้ แต่เราเขียนประมาณว่า
"พี่.... คะ ขออนุญาตคอมเม้นท์เกี่ยวกับร้านชาบูคิง สาขาแจ้งวัฒนะหน่อยนะคะ บริการสาขานี้ไม่ค่อยดีเลย
รออาหารมาเสิร์ฟนานมาก รอนานจนกระทั่งผักที่อยู่ในหม้อชาบูเปื่อยหมดแล้วอาหารก็ยังไม่มาเสียที
ตอนนี้ที่พิมพ์ข้อความนี้อยู่ก็รออาหารที่มาเสิร์ฟอยู่ค่ะ"
กด @ ทั้งเจ้าของร้านผู้หญิง และเจ้าของร้านผู้ชาย พร้อมทั้งกดส่งไปเรียบร้อย
แต่นึกขึ้นได้ว่ามีข้อความตกหล่นไป จึงพิมพ์อีกคอมเม้นท์ไปว่า
"ขอเพิ่มเติมหน่อยนะคะ ว่าเคยไปทานที่สาขาสุขุมวิทมา อาหารและบริการดีมากค่ะ"
สักพักหลังจากนั้นของสดก็มาเสิร์ฟ เราก็กินจนอิ่ม ก็ไม่ได้กดเปิด instagram ดูอีกเลย
(อ่อ ขอเพิ่มเติมนิดหน่อยคือตอนที่เรากินใกล้จะอิ่ม เราก็กลัวว่ามันจะเกินเวลากิน 90 นาทีของเรา
และเราจำไม่ได้ว่าเราเข้ามาตอนกี่โมง เลยขอให้น้องพนักงานเช็กให้หน่อยได้มั้ยว่าเราสามารถกินได้ถึงกี่โมง
น้องพนักงานพยักหน้าแล้วหายไป และไม่กลับมาตอบในสิ่งที่เราอยากรู้เลย....
คือเราอยากรู้มากกว่าถ้าเรากินเกินเวลาเนี่ย มันใช่ความผิดเรามั้ยที่ต้องเสียค่าปรับ เพราะคุณทั้งเสิร์ฟอาหารช้า
ถามแล้วด้วยว่ากินได้ถึงกี่โมงก็ไม่ยอมมาตอบ)
พอตอนอยู่บนรถกำลังกลับบ้าน เราลองเปิดดู instagram ดูในรูปที่เราคอมเม้นท์ไป ปรากฏว่า...
คอมเม้นท์แรกที่เราคอมเพลนสาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะโดนลบค่ะ
โดยที่คอมเม้นท์ที่สองที่ชมสาขาสุขุมวิทยังอยู่ค่ะ
นี่คือประเด็นที่ 2
แหม เรานี่ซึ้งเลย เจ้าของกิจการไม่พร้อมที่จะได้ยินคำตินี่เอง น้อมรับไว้แต่คำชมสินะคะ
ด้วยความซาบซึ้งกับเรื่องที่ได้เจอ เราเลยจัดแจงลบเม้นท์อันที่สองไปด้วยซะเลย
พร้อม unfollow instagram ของคู่รักเจ้าของร้านในทันที
ทั้งที่เมื่อวานเรายังรู้สึกชื่นชมคนทั้งคู่อยู่เลยค่ะ ว่าขยันทำงาน มีความตั้งใจที่จะสร้างฐานะของตัวเอง
และเราก็ติดตามข่าวเรื่องร้านชาบูคิงนี้มาตลอด จนกระทั่งมาเปิดที่เซ็นทรัลแจ้งฯ ที่อยู่แถวบ้าน
วันนี้เราก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนแฟนเราไปกินเองด้วยซ้ำ
พอเจอแบบนี้ไปก็ต้องขอบายนะคะ ทั้งผลงานในด้านต่างๆ หรือกิจการร้านอาหารของคุณทั้งสอง
เรายอมจ่ายแพงกว่านี้อีกนิด ยอมขับรถไปไกลอีกหน่อย ไปกินร้านอื่นที่เคยกินเป็นประจำดีกว่าค่ะ
เพราะเจ้านั้นถึงเขาจะมีแต่หมูกับเนื้อ แต่คุณภาพเค้าดีกว่ามากจริงๆ
(หมูคุโรบุตะที่กินวันนี้บางถาดมีกลิ่น ขนาดเอาจิ้มน้ำจิ้มงารัวๆแล้วยังได้กลิ่นอยู่เลย)
ทั้งหมดที่เราเล่ามานี้เป็นเรื่องจริงที่เราเจอมาวันนี้และอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง
แต่ของแบบนี้อาจจะขึ้นอยู่กับดวงก็ได้มั้งคะ ถ้าใครยังไม่เคยกินแล้วอยากลองก็ลองไปกินดูได้ค่ะ
แต่เราคงไม่ไปอีกแล้วค่ะ
[CR] Shabu king สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, ซึ้งใจมาก ตั้งใจว่าไม่กินร้านนี้อีกแล้วค่ะ
วันนี้ตอนประมาณห้าโมงเย็น เราไปทานบุพเฟ่ต์ที่ร้านชาบูคิง สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะที่เพิ่งเปิดเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ
มีเหตุการณ์ไม่ประทับใจหลายอย่างที่ไม่คิดว่าน่าจะเกิดขึ้น เพราะเราเคยไปกินที่สาขาสุขุมวิทมาแล้วครั้งนึง
ทุกอย่างโอเคมาก ในแง่ของรสชาติอาหารและการบริการ
(รสชาติอาจไม่เรียกได้ว่าดีที่สุด แต่อยู่ในขอบข่ายที่เรียกได้ว่าโอเคและสามารถยอมไปกินซ้ำได้)
แต่พอมาวันนี้ ทุกอย่างกลับตาลปัตรค่ะ
อาหารมาเสิร์ฟช้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกก มากถึงมากที่สุด
โต๊ะเราว่างไม่มีอะไรให้ชาบู ชาบูอยู่ร่วมสิบนาทีได้ นานถึงขนาดผักในหม้อเปื่อยหมดแล้วแต่ของสดก็ยังไม่มาเสิร์ฟ
นั้นคือประเด็นที่ 1
ช่วงที่ระหว่างรอของสดมาเสิร์ฟซึ่งเราเรียกย้ำไปแล้วสามครั้ง
เราจึงหยิบมือถือขึ้นมาเล่นและนึกขึ้นได้ว่าเราตาม follow instagram คู่รักนักร้อง-ดาราซึ่งเป็นเจ้าของกิจการแบรนด์นี้อยู่
ด้วยหวังใจว่า instagram จะสามารถเป็นสื่อเชื่อมโยงเรากับเจ้าของร้านได้
จึงได้ไปคอมเม้นท์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เจอวันนี้ในรูปเกี่ยวกับร้านอาหารนี้ที่เจ้าของร้านที่เป็นดาราผู้หญิงเคยลงไว้
เราจำประโยคเป๊ะๆไม่ได้ แต่เราเขียนประมาณว่า
"พี่.... คะ ขออนุญาตคอมเม้นท์เกี่ยวกับร้านชาบูคิง สาขาแจ้งวัฒนะหน่อยนะคะ บริการสาขานี้ไม่ค่อยดีเลย
รออาหารมาเสิร์ฟนานมาก รอนานจนกระทั่งผักที่อยู่ในหม้อชาบูเปื่อยหมดแล้วอาหารก็ยังไม่มาเสียที
ตอนนี้ที่พิมพ์ข้อความนี้อยู่ก็รออาหารที่มาเสิร์ฟอยู่ค่ะ"
กด @ ทั้งเจ้าของร้านผู้หญิง และเจ้าของร้านผู้ชาย พร้อมทั้งกดส่งไปเรียบร้อย
แต่นึกขึ้นได้ว่ามีข้อความตกหล่นไป จึงพิมพ์อีกคอมเม้นท์ไปว่า
"ขอเพิ่มเติมหน่อยนะคะ ว่าเคยไปทานที่สาขาสุขุมวิทมา อาหารและบริการดีมากค่ะ"
สักพักหลังจากนั้นของสดก็มาเสิร์ฟ เราก็กินจนอิ่ม ก็ไม่ได้กดเปิด instagram ดูอีกเลย
(อ่อ ขอเพิ่มเติมนิดหน่อยคือตอนที่เรากินใกล้จะอิ่ม เราก็กลัวว่ามันจะเกินเวลากิน 90 นาทีของเรา
และเราจำไม่ได้ว่าเราเข้ามาตอนกี่โมง เลยขอให้น้องพนักงานเช็กให้หน่อยได้มั้ยว่าเราสามารถกินได้ถึงกี่โมง
น้องพนักงานพยักหน้าแล้วหายไป และไม่กลับมาตอบในสิ่งที่เราอยากรู้เลย....
คือเราอยากรู้มากกว่าถ้าเรากินเกินเวลาเนี่ย มันใช่ความผิดเรามั้ยที่ต้องเสียค่าปรับ เพราะคุณทั้งเสิร์ฟอาหารช้า
ถามแล้วด้วยว่ากินได้ถึงกี่โมงก็ไม่ยอมมาตอบ)
พอตอนอยู่บนรถกำลังกลับบ้าน เราลองเปิดดู instagram ดูในรูปที่เราคอมเม้นท์ไป ปรากฏว่า...
คอมเม้นท์แรกที่เราคอมเพลนสาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะโดนลบค่ะ
โดยที่คอมเม้นท์ที่สองที่ชมสาขาสุขุมวิทยังอยู่ค่ะ
นี่คือประเด็นที่ 2
แหม เรานี่ซึ้งเลย เจ้าของกิจการไม่พร้อมที่จะได้ยินคำตินี่เอง น้อมรับไว้แต่คำชมสินะคะ
ด้วยความซาบซึ้งกับเรื่องที่ได้เจอ เราเลยจัดแจงลบเม้นท์อันที่สองไปด้วยซะเลย
พร้อม unfollow instagram ของคู่รักเจ้าของร้านในทันที
ทั้งที่เมื่อวานเรายังรู้สึกชื่นชมคนทั้งคู่อยู่เลยค่ะ ว่าขยันทำงาน มีความตั้งใจที่จะสร้างฐานะของตัวเอง
และเราก็ติดตามข่าวเรื่องร้านชาบูคิงนี้มาตลอด จนกระทั่งมาเปิดที่เซ็นทรัลแจ้งฯ ที่อยู่แถวบ้าน
วันนี้เราก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนแฟนเราไปกินเองด้วยซ้ำ
พอเจอแบบนี้ไปก็ต้องขอบายนะคะ ทั้งผลงานในด้านต่างๆ หรือกิจการร้านอาหารของคุณทั้งสอง
เรายอมจ่ายแพงกว่านี้อีกนิด ยอมขับรถไปไกลอีกหน่อย ไปกินร้านอื่นที่เคยกินเป็นประจำดีกว่าค่ะ
เพราะเจ้านั้นถึงเขาจะมีแต่หมูกับเนื้อ แต่คุณภาพเค้าดีกว่ามากจริงๆ
(หมูคุโรบุตะที่กินวันนี้บางถาดมีกลิ่น ขนาดเอาจิ้มน้ำจิ้มงารัวๆแล้วยังได้กลิ่นอยู่เลย)
ทั้งหมดที่เราเล่ามานี้เป็นเรื่องจริงที่เราเจอมาวันนี้และอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง
แต่ของแบบนี้อาจจะขึ้นอยู่กับดวงก็ได้มั้งคะ ถ้าใครยังไม่เคยกินแล้วอยากลองก็ลองไปกินดูได้ค่ะ
แต่เราคงไม่ไปอีกแล้วค่ะ